ผลวิเคราะห์กล่าวว่าทั่วโลกนั้นมีความต้องการใช้เหล็กลดลง
รายงานจาก World Steel Association ได้มีรายงานออกมาโดยอ้างอิงจากเศษรฐกิจของโลกที่อ่อนแอลง โดยคาดการณ์ไว้ว่าในช่วงนี้มีการชะลอตัวในการใช้เหล็กไปจนถึงปี 2020 โดยหากความต้องการเหล็กนั้นจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 1.3 เปอร์เซ็นต์ แต่ในปี 2020 จะขึ้นเพิ่งแค่ 1% โดยเห็นได้จากปี 2018 มีความต้องการใช้เหล็กอยู่ประมาณ 2.1% เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความต้องการในการใช้เหล็กทั่วโลกนั้นเริ่มมีการชะลอตัวลง
ความคิดเห็นในเรื่องการชะลอตัวลงของความต้องการใช้เหล็กจาก Worldsteel
ทาง Worldsteel ให้ได้ข้อมูลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจากประเทศจีนนั้นเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดการชะลอตัว ส่งผลให้ธุรกิจและการลงทุนอยู่ในระดับการ รวมไปถึงที่สหรัฐอเมริกา ก็มีการเติบโตทางด้านการก่อสร้างอยู่ในระดับกลางเช่นกัน
ประเทศกลุ่มใหญ่มีการชะลอตัว แต่ในประเทศที่กำลังพัฒนากลับมีความต้องการใช้เหล็กเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ Worldsteel ได้กล่าวอีกว่าในกลุ่มประเทศเกิดใหม่มีความต้องการใช้เหล็กเพิ่มขึ้นกว่า 2.9% โดยคาดว่าจะมีความต้องการใช้อีกในปี 2020 อีกกว่า 4.5% เช่น ประเทศอินเดียมีความเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในอินเดียมีความต้องการที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศให้รองรับกับความต้องการ ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นสูงกว่า 6.4% ในปี 2020
ประเทศไทยมีโครงการก่อสร้างในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง
ในประเทศไทยมีการก่อสร้างทั้งจากรัฐบาลและจากบริษัทเอกชนหลากหลายโครงการ โดยโครงการเหล่านี้มีความต้องการในการใช้เหล็กอยู่มหาศาล เพื่อให้โครงการมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการขอองเอกชนมีตั้งแต่การสร้างห้างสรรพสินค้า ที่มีการลงทุนจากทั้งไทยและต่างประเทศ โครงการของรัฐบาลก็มีการสร้างรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง และมีการสร้างในส่วนของอสังหาริมทรัพย์อีกหลากหลายโครงการเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น